สสว. – มทร.ธัญบุรี ดัน ‘คลัสเตอร์ชีววิถีน้ำเกี๋ยน’ สู่เครือข่ายสมุนไพรภาคเหนือประเทศไทย

สสว. – มทร.ธัญบุรี ดัน ‘คลัสเตอร์ชีววิถีน้ำเกี๋ยน’ สู่เครือข่ายสมุนไพรภาคเหนือประเทศไทย

แหล่งที่มา : SEVEN DAY News
ผศ.ดร.มโนสุวรรณคำผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี(มทร.ธัญบุรี) เผยว่าจากการดำเนินโครงการสนับสนุนเครือข่ายSME ที่เป็นการรวมกลุ่มแบบคลัสเตอร์ซึ่งจากความสำเร็จในปี2560 – 2561 ที่ผ่านมาการพัฒนาผู้ประกอบการแบบคลัสเตอร์เป็นอีกแนวทางที่ประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกระจายรายได้กระตุ้นการจับจ่ายและเกิดการพัฒนาสินค้าผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง

ในปี2562 นี้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือสสวเห็นถึงความสำคัญของการรวมกลุ่มผู้ประกอบการSME จึงกำหนดแนวทางการพัฒนาเครือข่ายหรือคลัสเตอร์ร่วมกับมทร.ธัญบุรีพัฒนากลุ่มเครือข่ายสมุนไพรซึ่งเป็นการดำเนินต่อเนื่องมุ่งเน้นให้มีการรวมกลุ่มผู้ประกอบการในกลุ่มคลัสเตอร์ตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำไปจนถึงปลายน้ำเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือและเชื่อมโยงกันระหว่างผู้ประกอบการจากฐานล่างถึงระดับบนให้เป็นคลัสเตอร์ที่เข้มแข็งมีการช่วยเหลือพึ่งพาภายในกลุ่มคลัสเตอร์ของตนเองโดยจะเน้นไปในเรื่องการพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานเพื่อการนำสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศเป็นสำคัญและกลุ่มที่เป็นการดำเนินงานในปีแรกคือคลัสเตอร์เทคโนโลยีเพื่อการเกษตรที่เน้นไปในเรื่องการรวมกลุ่มการทำแผนยุทธศาสตร์รวมถึงการพัฒนาศักยภาพความเข้มแข็งตามความต้องการของกลุ่มคลัสเตอร์นั้นๆ

ผศ.ดร.มโนกล่าวอีกว่าการดำเนินงานในปี2562 นี้การพัฒนาคลัสเตอร์สมุนไพรจะมีความเข้มข้นเพิ่มความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการที่เข้ามาร่วมโครงการเป็นอย่างมากในการพัฒนาจะเน้นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเป็นแนวทางหลักเพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของกลุ่มผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจและแข่งขันได้ทั้งในตลาดระดับประเทศและตลาดต่างประเทศได้และได้จัดอบรมเชิงปฎิบัติการให้กับคลัสเตอร์ชีววิถีน้ำเกี๋ยนหัวข้อ“การพัฒนาศักยภาพในการดำเนินงานของคลัสเตอร์ชีววิถีน้ำเกี๋ยน” กิจกรรมพัฒนาเครือข่ายสมุนไพรภายใต้โครงการสนับสนุนSME ปี2562 ณหอประชุมบ้านใหม่พัฒนาอ.ภูเพียงจ.น่าน โดยให้องค์ความรู้เกี่ยวกับการทำมาตรฐานPGS ด้านการผลิตสมุนไพรและการทำการตลาดออนไลน์ แนวทางการเพิ่มยอดขายที่เหมาะกับสินค้าการร่วมกันวิเคราะห์แผนยุทธศาสตร์คลัสเตอร์ชีววิถีน้ำเกี๋ยนเพื่อการดำเนินงานในปี2562 รวมถึงการให้คำปรึกษาด้านการวางแผนการเงิน

“ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาและศักยภาพคณาจารย์มทร.ธัญบุรีที่สร้างและพัฒนางานวิจัยนวัตกรรมและองค์ความรู้อย่างต่อเนื่องจึงมั่นใจได้ว่าโครงการสนับสนุนเครือข่ายSME ปี2562 นี้จะสามารถเพิ่มศักยภาพส่งเสริมให้เกิดความเข้มแข็งพัฒนาการผลิตการบริหารจัดการธุรกิจอันจะทำให้เกิดการพัฒนาที่สูงขึ้นต่อไป” ผศ.ดร.มโนกล่าว

ด้านนายชูศิลป์สารรัตนะประธานวิสาหกิจชุมชนชีววิถีต.น้ำเกี๋ยนจ.น่านกล่าวว่าการรวมกลุ่มคลัสเตอร์หรือเครือข่ายก่อให้เกิดความเข้มแข็งสามารถพัฒนาธุรกิจต่อไปได้ สิ่งสำคัญคือการขยายผลต่อยอดธุรกิจพัฒนาสมุนไพรสู่สินค้าผลิตภัณฑ์ที่ดีมีมาตรฐานและผ่านการรับรองคุณภาพส่วนผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อและได้รับการยอมรับของวิสาหกิจชุมชนของเราก็คือแชมพูใบหมี่“กิจกรรมพัฒนาเครือข่ายสมุนไพรฯครั้งนี้เปรียบเหมือนนำพาทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการมาชาร์ตแบตเตอรี่ป้อนไปใช้ในสมองเพื่อการต่อยอดธุรกิจขยายพื้นที่ของสมุนไพรให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น”

ขณะที่นายบุญชูดีพรมกุลคณะกรรมการฝ่ายบริหารวิสาหกิจชุมชนชีววิถีเกษตรกรผู้ปลูกสมุนไพรวัย67 ปีเผยว่ามาตรฐานเกษตรอินทรีย์PGS เป็นสิ่งที่น่าสนใจและมีประโยชน์ไม่เพียงแค่ผู้บริโภคแต่ยังส่งผลดีต่อผู้ปลูกเป็นอย่างมากทำให้คุณภาพชีวิตที่ดีและไม่ต้องพึ่งพาสารเคมีสารปราบศัตรูพืช“อยากได้ความรู้เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์อยากได้มาตรฐานรับรองฯจึงมาเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้” โดยตนนั้นเริ่มปลูกผักเชียงดาขมิ้นเหลืองมะเขือพริกและสมุนไพรอื่นๆบนพื้นที่กว่า1 ไร่และตั้งใจจะทำสมุนไพรสู่มาตรฐานเกษตรอินทรีย์.

ภาพ/ข่าว ไมตรี บรรฑิตย์ รายงาน

Comments are closed.